Breaking News
Loading...

Info Post



วันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา เป็นวันที่ เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ เป็นนักเรียนวัย 17 สายศิลป์-จีน จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และเลขาธิการกลุ่มศึกษาเพื่อความเป็นไทยได้ประสบการณ์ใหม่ในชีวิต เมื่อเขาถูกเจ้าหน้าที่ทหารรวบตัวขณะที่ลุกขึ้นชูป้ายขึ้นเพื่อสื่อสารกับนายกรัฐมนตรี หลังเสร็จสิ้นการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ผลงานความก้าวหน้าของรัฐบาลในการปฏิรูปการแก้ทุจริตคอร์รัปชัน” เหตุการณ์ไปจบลงที่สถานีตำรวจ และเขาได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ได้ตั้งข้อหาอะไร แต่ได้บันทึกประวัติ และเลขที่บัตรประชาชนเอาไว้

เพนกวินบอกว่า วันนั้นเขาเตรียมใจไปว่าอาจจะมีปัญหานิดหน่อย เมื่อโดนรวบตัวและต้องถูกสอบสวนอยู่ที่สถานีตำรวจกว่า 2 ชั่วโมงก็เลยไม่ตกใจอะไร แต่ความตั้งใจของเขาคืออยากสื่อสารกับนายกรัฐมนตรีว่า การแก้ปัญหาทุจริตนั้นเป็นเรื่องที่ต้องสร้างจากจิตสำนึกสาธารณะ ขณะที่ระบบการศึกษาของไทยเน้นการท่องจำเรื่องจริยธรรมและความดีผ่านวิชาหน้าที่พลเมือง ซึ่งเขาและเพื่อนๆ จากกลุ่มศึกษาเพื่อความเป็นไทยอีกราวๆ 50 คนเห็นว่าไม่ใช่วิธีทำให้เด็ก “อิน”





“ผมคิดว่าเพื่อให้เด็ก ‘อิน’ กับสิ่งกับสิ่งที่เป็นความดี ทำได้จริง และปรับกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น ควรจะเรียนประสบการณ์จากวิชาปรัชญา วิชาจริยศาสตร์มากกว่า” เพนกวินอธิบายแนวคิดซึ่งเขาเขียนลงไปบนป้ายที่ชูในวันเกิดเหตุด้วยว่า “ สอนเด็กไทยไม่ให้โกง ใช้เหตุผลสร้างจริยธรรมดีกว่าท่องจำหน้าที่พลเมือง” ซึ่งป้ายนั้นโดนเก็บไประหว่างเกิดเหตุชุลมุนลากตัวเขาออกจากห้องประชุม

เขาบอกว่า แม้จะโดนรวบตัวแต่ก็ไม่ได้ตกใจเพราะแน่ใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด และเจตนาสุจริต “การศึกษานี่เป็นสิ่งสำคัญและปัญหาความทุจริตต่างหากที่ต้องแก้”

นักเรียน ม. 5 รายนี้บอกว่าเขาและเพื่อนๆ กลุ่มศึกษาเพื่อความเป็นไทยนั้นรวมตัวกันได้ราวๆ 50 คนและพูดคุยผ่านโซเชียลมีเดียถึงประเด็นการศึกษาเป็นหลัก โดยเขาได้ตำแหน่งเลขาธิการกลุ่มมาด้วยการ “โหวตแบบลำลอง” คือการลงคะแนนโดยเพื่อนๆ ที่มาร่วมพูดคุยกัน ประเด็นล่าสุดที่พวกเขาเคลื่อนไหวก็คือ เรื่องการปรับเวลาเรียนให้โรงเรียนเลิกเรียนเวลา 14.00 น. ซึ่งพวกเขาเพิ่งไปยื่นจดหมายถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเมื่อวันพฤหัสบดี ที่แล้ว

“ทางกลุ่มเห็นว่า การลดเวลาเป็นแนวโน้มที่ดีต่อการปฏิรูปการศึกษา แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นต้องปรับหลักสูตรที่เหมาะสม และต้องฟังครูและนักเรียนด้วย การปรับกิจกรรมให้นักเรียนควรให้เด็กๆ ได้มีส่วนร่วมจริงๆ นะ ฟังเสียงเด็กๆ ไม่บังคับ”

ล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายเรื่องการปรับข้อสอบปรนัยให้น้อยลงเพิ่มอัตนัยให้มากขึ้น เพนกวินบอกว่ากลุ่มฯ ยังไม่ได้คุยกัน แต่โดยส่วนตัวเขาเห็นว่า ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็มีปัญหาเชิงเทคนิคอยู่ด้วย

“จะถามคำถามแบบไหนให้เด็กทั้งประเทศสอบ ในกรณีที่เป็นข้อสอบปลายเปิด มีเรื่องความใจกว้างของผู้ตรวจด้วย” เพนกวิน กล่าว

หลังเกิดเหตุการณ์ถูกรวบตัวไปโรงพัก เขายังยืนยันว่าจะทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ เรื่องการศึกษาต่อไป และทางโรงเรียนยังไม่ได้เรียกเขาไปพบหรือมีท่าทีใดๆ ต่อการแสดงออกทางความคิดของเขา ขณะที่พ่อและแม่เป็นห่วงอยู่บ้างแต่เห็นว่าเขาอายุไม่น้อยแล้วและถือว่ามีวิจารณญาณระดับหนึ่ง

“ตอนแรกเขาก็ตกใจที่โดนตำรวจรวบ แต่ที่บ้านเราเน้นเรื่องการเปิดกว้างทางความคิด” นักเรียนชายวัย 17 ผู้ใฝ่ฝันอยากเรียนด้านประวัติศาสตร์กล่าวทิ้งท้าย







บีบีซีไทย – BBC Thai
www.bbc.co.uk/thai/index.shtml
ทีมา => http://www.baabinz.com/56621/