เมื่อวันที่ 6 ต.ค.นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทยพบว่าอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติผู้รังสรรค์สร้างวัดร่องขุ่นพร้อมลูกศิษย์อีกหลายคนต้องนำนกหวีดไปนั่งเฝ้างานประติมากรรมหุ่นไอรอนแมนประยุกต์ ซึ่งอาจารย์เฉลิมชัยออกแบบให้มีขนาดใกล้เคียงกับคนจริงนั่งอยู่ตรงม้านั่งบริเวณด้านหน้าอุโบสถสีขาว เพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวไปนั่งทับหรือทำท่าทางที่ไม่เหมาะสมกับหุ่นดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้มีพฤติกรรมดังกล่าวเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะช่วงที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน จนทำให้ทางวัดต้องซ่อมแซมหุ่นดังกล่าวหลายครั้งและทางอาจารย์เฉลิมชัยยังไม่พอใจที่มีคนไปทำพฤติกรรมดังกล่าวภายในวัดด้วย อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีการคุ้มเข้มดังกล่าวแต่พบว่ายังคงมีคนไปนั่งและยืนถ่ายภาพกับหุ่นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพราะตั้งอยู่ตรงทางผ่านก่อนเดินสู่ประตูทางเข้าอุโบสถและอาคารภายใน โดยพบว่ายังมีบางคนที่แวะถ่ายภาพและมีพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวอยู่
อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวว่าหุ่นดังกล่าวเป็นหุ่นระดับอินเตอร์สร้างเสร็จเมื่อราว 3-4 เดือนก่อน เป็นรูปแบบประยุกต์จากหนังสือไอรอนแมนที่เป็นภาพยนตร์ที่มีความโด่งดังมาก ตนจึงนำมาประยุกติ์ให้เป็นสีเขียว ใส่ชฎา มีตราวัดร่องขุ่นและถือดอกบัว มีความหมายถึงการเป็นเทพพิทักษ์วัดร่องขุ่นและป่าไม้ แต่ปรากฎว่าเมื่อนำไปตั้งไว้ปรากฎว่ามีนักท่องเที่ยวบางคนซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งโดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็นปัญหาใหญ่มักจะถ่ายภาพโดยนั่งทับในท่าทางต่างๆ ซึ่งบางครั้งถึงขั้นนั่งบนขาหุ่นหรือทับหว่างขาทั้งนั่งในท่าวางทั้งด้านหน้าและด้านหลังลงไป บางคนโอบกอด กอดรัด จูบ จับตามจุดต่างๆ ที่ไม่เหมาะสมลักษณะเหมือนอาการทางเพศหรือเซ็กส์ โดยส่วนใหญ่ปัญหาจะเกิดกับผู้หญิงฝรั่งที่เขาไม่ทราบคิดว่าเป็นเพียงแค่หุ่นแต่ไม่เข้าใจว่าด้านหลังคือวัดที่เป็นที่เคารพสักการะของคนไทย และตนไม่ชอบอย่างมากที่มากระทำอาการดังกล่าว
อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวอีกว่านอกจากจะไม่เหมาะสมและตนไม่ชอบเพราะเป็นท่าทางที่น่าเกลียดแล้ว การกระทำดังกล่าวยังทำให้หุ่นเสียหายโดยดอกบัวโน้มลงไม่ตั้งขึ้นจนไม่สวยงามเหมือนตอนที่สร้างเสร็จใหม่ๆ ส่วนกระจกและสีภายนอกหุ่นก็กระเทาะเสียหายจนทางวัดต้องซ่อมแซมทุก 3-4 วันไม่มีหยุดหย่อน ทำให้ทุกวันนี้ตนต้องถือนกหวีด 1 อันแล้วไปนั่งเฝ้าหุ่นตัวนี้โดยเฉพาะทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่มาจากชาติตะวันตกเดินทางไปเยือนส่วนใหญ่ตั้งแต่เวลา 08.00-11.00 น.และช่วงสายถึงเย็นจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางไปกันมากเป็นลำดับถัดไป แต่ปัญหาส่วนใหญ่จะเกิดกับฝรั่งมากกว่าซึ่งก่อเหตุวันละนับ 100 ครั้งจนเป็นเรื่องที่น่าเบื่ออย่างยิ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าในปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปเที่ยววัดร่องขุ่นซึ่งที่ผ่านมาเคยเกิดปัญหาจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ทำให้ห้องน้ำสกปรกและทางอาจารย์เฉลิมชัยต้องแจ้งให้ทางมัคคุเทศน์หรือไกด์รวมทั้งเจ้าหน้าที่คุมเข้มบริเวณห้องน้ำจนทำให้ปัญหาทุเลาลง แต่ทางอาจารย์เฉลิมชัยยอมรับว่ายังคงพบปัญหาอยู่เนื่องๆ กระทั่งมาพบกับปัญหาใหม่ในครั้งนี้ดังกล่าวซึ่งก็ยังไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างถาวรได้อย่างไรดีนอกจากนั่งถือนกหวีดเฝ้าหากพบคนมีพฤติกรรมดังกล่าวก็เป่านกหวีดเตือนกันไปเรื่อยๆ ดังกล่าว
ทีมา => http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1444119859
